วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

backpack มากรุงเทพฯ โปรแกรมที่ 1 เยือนวัดพระแก้ว(ตอนย่อยที่1)



backpack จากเวียงจันทน์มากรุงเทพฯ โปรแกรมที่ 1 เยือนวัดพระแก้ว(ตอนย่อยที่1)
ค่าใช้จ่ายทริปนี้ 1,340 บาท(แพงค่าเข้าชม)

................เนื่องจากในกรุงเทพฯ ค่อนข้างมีรถโดยสารค่อนข้างมาก หากมีที่พักแล้วก็ไม่น่าห่วงเท่าไหร่ มาเริ่มโปรแกรมแรกกันเลยดีกว่า 1 กันเลยดีกว่า
ในแต่ละสถานก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจหลายอย่าง ผมจึงอยากให้ได้อ่านเรื่องราวของแต่ละสถานที่คร่าวๆเพื่อให้ได้บรรยากาศในการเที่ยวอย่างแท้จริง จึงขอแบ่งเป็นตอนย่อยๆ มาดูทริปวันนี้กันก่อนเลยดีกว่า (ไม่)ประหยัดตังค์ ไม่ลำบาก ไม่ต้องรีบด้วย ***มีค่าเข้าชม2วัดคนไทยเข้าฟรี
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ราชวรมหาวิหาร>>วัดพระศรีรัตนศาสดาราม,พระบรมมหาราชวัง(500บาท)>>>ศาลหลักเมือง>>วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร(200บาท)>>วัดอรุณราชวรารามวรวิหาร>>วัดกัลยานมิตรวรมหาววิหาร >>วัดระฆังโฆสิตาราวรมหาวิหาร >>ท่าพระอาทิตย์   ตามแผนที่นี้เลย
       อย่าลืมและสำคัญมากนั่นก็คือ การแต่งกายสวมการเกงไม่สั้นเสื้อสุภาพไม่บาง รองเท้าไม่แตะ เพราะต้องเข้าวัด
        ถ้าจะอยากอิ่มบุญไปด้วย แนะนำให้แลกเงินเป็นแบงค์ใบ 20 บาท ไว้สัก 200 บาทสำหรับทำบุญด้วยน่ะครับ
มาเริ่มเที่ยวกันได้เลยย.............



                    ตื่นเช้าสัก 7 โมง จากที่พักในซอยรามบุตรี เดินออกมาทางสนามหลวง เพื่อจะได้สัมผัสบรรยากาศยามเช้าที่สนามหลวง สงสัยมั้ยว่าทำไมถึงมีลานหญ้าโล่งกลางเมืองพระนครน่ะ ถ้างั้นมาดูประวัติกันก่อนดีกว่า





เดิมสนามหลวง ชื่อว่า ทุ่งพระเมรุ แต่แรกนั้นพื้นที่ตรงนี้เป็นที่ประกอบราชพิธีต่างๆ แต่ด้วยความที่ว่าหนึ่งในพิธีนั้นคือ การเป็นที่ตั้งพระเมรุมาศของพระมหากษัตริย์ และพระบรมวาศานุวงศ์ คนสมัยนั้นจึงนิยมเรียกกันว่า ทุ่งพระเมรุ       สนามหลวง เคยผ่านเหตุการณ์หลายๆอย่าง ตั้งแต่เป็นทุ่งนา เป็นสนามกอล์ฟ เป็นตลาด โดยเฉพาะอย่างหลังนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นตลาดนัดใหญ่ที่สุดของไทยมีมากกว่า 10,000 ร้านค้า นั่นก็คือตลาดนัดจตุจักร หรือ JJ marketที่ชาวต่างประเทศรู้จักกัน โดยย้ายจากสนามหลวง ไปตั้งที่จตุจักรในปัจจุบันตั้งแต่ พ.ศ.2521


                                                                ภาพเก่าสนามหลวง
                                       
                                                           ภาพตลาดนัดสนามหลวง


นั่งเล่นสักพักค่อยเดินต่อไปที่วัดมหาธาตุฯกัน
เดินตามรั้วสนามหลวงไปเรื่อยๆก็จะเห็น ทางเข้าวัดมหาธาตุฯ เดิยเลย ม.ธรรมศาสตร์มาหน่อยนึง        วัดนี้ เข้าฟรี น่ะครับ

                                    


เนื่องจากวัดมหาธาตุฯไม่ได้เป็นที่เด่นสะดุดตา หรือนิยมท่องเที่ยว เพราะเมื่อมองจากภายนอกวัด วัดจะดูมีขนาดเล็กมาก นักท่องเที่ยวต่างชาติจึงนิยมแค่ถ่ายรูปอนุเสาวรีย์ด้านหน้าเท่านั้น  ซึ่งภายในวัดก็จะมีกิจกรรมการปฏิบัติธรรม แต่เข้าไปได้แน่นอน  และที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือ วัดนี้เมื่อเดินเข้าไปแล้ว จะหาทางไปอุโบสถของวัดไม่เจอ จึงเอาภาพจาก มุมสูงแนบมาด้วย จุดสีแดงคือทางเข้าน่ะครับ  โดยแนะนำให้เดินชมแนวระเบียงคดรอบโบสถ์ ตามภาพ(ส่วนที่ดำๆไม่ได้พังน่ะครับ วัดกำลังบูรณะอยู่จึงเห็นผ้าคลุมดำมุมล่างซ้าย) แล้วค่อยเข้าพระมณฑป(หลังเล็กสุด) ซึ่งประดิษฐาน พระเจดีย์ทองศรีรัตนมหาธาตุ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ  ต่อด้วยอุโบสถวัด(หลังใหญ่สุด)ไหว้พระประธาน แล้วค่อยเดินทะลุออกมาทางด้านหลังวัด หาอะไรกินแถวนี้ได้ มีหลายร้าน หรือจะเดินไปทางวัดพระแก้วแถวท่าช้างก็ได้

                                 

หาอะไรกินอิ่มแล้วมาที่ ไฮไลท์ของวันนี้กันเลยดีกว่า นั่นก็คือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วนั่นเอง   เดินไม่ไกลมากก็จะเจอกำแพงพระบรมมหาราชวัง แล้วเดินเลี้ยวซ้ายไปก็จะเห็นประตูวิเศษไชยศรี เป็นประตูเดียวที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้า อย่าลืมพกน้ำเปล่าเข้าไปกินข้างใน เพราะปกติจะเดินอยู่ภายใน ประมาณ ชั่วโมงกว่า

                                
              เมื่อเข้าไปแล้ว ก็จะมีคนคอยตรวจการแต่งกาย มองอยู่ไกลๆ55 เดินตามขบวนนักท่องเที่ยวไปเลยครับ   ค่าเข้าชม 500 บาทน่ะครับสำหรับต่างชาติ   เป็นราคาเหมารวม ชมพิพิธภัณฑ์เครื่องราชฯ  วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หมู่พระบรมมหาราชวัง พระที่นั่งอนันตสมาคม พระที่นังวิมานเมฆ ใช้ได้ภายใน 7 วัน ได้ตั๋วมาจะได้แผนผังมาด้วย เดิมชมตามนักท่องเที่ยวคนอื่นๆได้เลย

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือเรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว เป็นวัดที่อยู่ในพระบรมมหาราชวัง สร้างตามลักษณะวังหลวงในสมัยอยุธยา ที่จะสร้างวัดภายในวัง  วัดพระแก้วเป็นประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร(พระแก้วมรกต) เป็นพระประธาน


                                                             พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร(พระแก้วมรกต)



ภายในบริเวณก็จะมี รูปปั้นฤาษี หอระฆัง หอพระคันธารราษฎร์ หอราชกรมานุสรณ์ หอพงศานุสรณ์ พระโพธิธาตุพิมาน ปราสาทพระเทพบิดร พระมณฑป พระศรีรัตนเจดีย์ บุษบกพระราชลัญจกร พระสุวรรณเจดีย์ นครวัดจำลอง รูปปั้นสัตว์หิมพาน พระระเบียง
                                    
                                                                 ปราสาทพระเทพบิดร

                                       
                                                                        พระมณฑป                                                                                                                   
                                                                              พระระเบียง รอบพระอุโบสถ
ข้อควรรู้คือ วัดพระแก้วไม่มีพระสงฆ์
                   ห้ามถ่ายรูปภายในพระอุโบสถ
                   วัตถุ ฝาผนัง รูปปั้น ห้ามจับ
                   ห้ามจุดธูปเทียนภายในพระอุโบสถ จุดภายนอกได้
                   วัดพระแก้วไม่ได้เปิดทุกวัน โดยจะมีการปิดในช่วงที่มีพระราชพิธีสำคัญ(ต้องตรวจดูวันเวลาก่อน ซึ่งมีไม่กี่วัน )
                   มีเพียงหอพระแก้วแห่งเดียวเท่านั้นที่เปิดในวันทั่วไป(บางจุดเปิดเฉพาะวันสำคัญ)
                   รูปปั้นฤาษี(ที่เข้ามาในวัดแล้วเจอเลย) คือ หมอชีวก โกมารทัจน์ หมอประจำองค์พระพุทธเจ้า (อธิฐาน เรื่องโรคภัย ไข้เจ็บ)
                   นครวัดจำลอง จำลองมาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นส่วนหนึ่งอาณาจักรสยาม ถูกต้องทุกสัดส่วนตามโครงสร้างของจริง
                   พระแก้วมรกต มีเครื่องทรงสามฤดู ฤดูร้อน ฤดูหนาว ฤดูฝน หากไปต่างฤดูก็จะเห็นพระแก้วมรกตดูแตกต่างกันออกไป
                   เนื่องจากในอุโบสถคนค่อนข้างมาก จึงไม่แนะนำให้นั่งนานเพราะจะได้แบ่งปันผู้อื่นด้วย
                   พระระเบียงวัดพระแก้วนั้น เป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดชม


วีดีโอ พาชมวัดพระแก้ว และ พระบรมมหาราชวัง น่ะครับ ที่มา ยูทูป


.......อ่านต่อหน้าต่อไป
                 
              

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น